วันจันทร์ที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2560

CH1 - เต็งชิงฉาน

CH1 - เต็งชิงฉาน

ที่ชั้นสองของโรงน้ำชาที่เงียบสงบมาก เสียงเพลงที่อ่อนโยนหมือนสายน้ำไหลทำให้คนรู้สึกผ่อนคลาย มีคนไม่มากที่ชั้นสองของโรงน้ำชา มีเพียงประมาณสิบหรือมากกว่านั้นนิดหน่อย กลุ่มที่มีสองหรือสามคนลดเสียงการพูดของพวกเขาลง มีเสียงฝีเท้าดังมาจากบันไดซึ่งดึงดูดความสนใจจากแขกบางคน

เด็กสาวที่ดูสง่างามกับผมหางม้าสวมกางเกงยีนส์และเสื้อโปโลสีขาวพร้อมกับผู้หญิงผมสั้นรูปร่างสูงในชุดสีม่วง กำลังก้าวเข้าสู่ชั้นสองของโรงน้ำชา

หลายคนมองไปที่พวกเธอ

"ลองดูพวกผู้หญิงสองคนนั้นสิ! โดยเฉพาะผู้หญิงสวยที่ใส่ชุดสีม่วง! "

"อืม ผมไปเรียนที่มหาวิทยาลัยซูโจวมาสี่ปีและเพิ่งจะกลับมาที่อันอี่ ไม่น่าเชื่อว่าที่นี่จะมีผู้หญิงที่สวยขนาดนี้ ทำไมเธอสวยอย่างนี้ ! หญิงสาวอีกคนดูเหมือนจะยังเด็กอยู่ แต่ก็ยังคงเป็นคนที่มีงดงามมากคนหนึ่ง "

"เฮ้ เจ้าลิงไม่ว่าผู้หญิงพวกนี้จะสวยแค่ไหนพวกเธอก็ต้องเป็นของคนอื่นนายควรจะหยุดฝันได้แล้ว!"

"เฮ้, พี่ใหญ่อย่าดูถูกผมนะ ผมสงสัยว่าสาวสวยผมสั้น รูปร่างสูงคนนี้เป็นใครกัน ผมอยู่แถวนี้มานานกว่า 20 ปี แต่เธอเป็นหนึ่งในสามอันดับแรกของผู้หญิงที่สวยที่สุดที่ผมเคยเจอมาเลย ท่าทางของเธอ ... มันสัมผัสหัวใจของผู้คน ...

"เจ้าลิง ฉันจะบอกนายให้ ผู้หญิงสวยคนนี้ชื่อว่า "หลินชิง" - เป็นคนที่มีอิทธิพลมาก เมื่อสองวันก่อนรถแลนด์โรเวอร์ที่ราคาสองแสนหยวนที่เราเห็นนั้นก็เป็นของเธอ ในเมืองอันอี่ เธอเป็นเจ้าของผับและโรงน้ำชาสองแห่ง คุณสมบัติของเราน้อยมากเมื่อเทียบกับของเธอ

"นี่เรื่องจริงหรอ?" - ชายหนุ่มคนหนึ่งที่มีชื่อเล่นว่า "ลิง" มันช่วยที่เขาได้กลอกตาไปมาและอ้าปากค้างจนลิ้นแลบออกมา อันอี่เป็นเพียงเมือง เมืองหนึ่งในมณฑลเจียงซู รถแลนด์โรเวอร์ราคาสองแสนหยวนในเมืองเล็ก ๆ แห่งนี้มันน่าตกใจจริงๆ

"คุณหลิน เราได้เตรียมห้องสำหรับคุณพร้อมแล้ว โปรดตามผมมา "- พนักงานของโรงน้ำชากล่าวขึ้น ผู้หญิงสองคนเดินช้าๆ ตามพนักงานไปที่ห้องวีไอพีซึ่งสะท้อนอยู่ในสายตาของคนจำนวนมากที่อยู่นั่น ประตูห้องปิดแล้ว

ภายในห้อง

หลินชิงสั่งหม้อชาและรอให้พนักงานออกไป

"คุณหลิน คุณมาที่นี่ทุกวันเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาและเลือกห้องวีไอพีนี้เท่านั้น ฮ่าๆ ทุกคนสามารถรู้ความคิด สุมาเจียว ของคุณได้ "- เด็กสาหางม้าพูดขึ้นขณะที่มองออกนอกหน้าต่างที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าตรงข้าม

[ ปล . สุมาเจียวเป็นตัวละครในประวัติศาสตร์จีน ]

มีเจ้าหน้าที่เพียงไม่กี่คนที่เล่นกับเด็กกำพร้าในลานด้านหน้าของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า

"คุณเป็นคนตลกจริง ๆ " - ช่วยไม่ได้ที่หลินชิงจะหัวเราะ แต่ในบางครั้งหลินชิงมองออกไปนอกหน้าต่าง มองไปยังสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ดวงตาที่น่าเศร้าของเธอเปิดเผยว่าเธอกำลังพยายามมองหาบางสิ่งบางอย่าง แต่ก็หาไม่พบ

"มันแปลกจริงๆ! ไม่มีทีท่าว่าเต็งชิงฉานจะมาซักที ทำไมวันนี้เขาถึงไม่มา? เขาไม่ทราบหรือไม่ว่าคุณหลินอยู่ตรงนี้รอเขาหมดท่า? " เด็กสาวหางม้าโอดครวญขึ้นมาอย่างตั้งใจ

" โอเค เสี่ยวมิน เลิกล้อเล่นซะทีเถอะ " หลินชิงยิ้ม

เสี่ยวมินพยักหน้า แต่แล้วเธอก็เอ่ยความสงสัยของเธอ "คุณหลิน ฉันรู้สึกว่าเต็งชิงฉานเป็นคนที่ลึกลับคนหนึ่ง ตอนที่เราปีนภูเขาดาซิ่งอี่ เต็งชิงฉานแบกคุณอยู่บนหลังของเขาเป็นเวลาเกือบยี่สิบไมล์จากถนนบนภูเขา เป็นถนนบนภูเขา! ความแข็งแกร่งของเต็งชิงฉานน่ากลัวมาก "

" เขาเป็นคนที่ลึกลับ " หลินชิงพยักหน้า

หลินชิงยังจำได้อย่างชัดเจนถึงสถานการณ์ที่เธอได้พบกับชิงชาน

ในเวลานั้นหลินชิงและเพื่อนของเธอไปทางตะวันออกเฉียงเหนือเพื่อสำรวจเทือกเขาดาซิ่งอี่ กลุ่มหลินชิงไม่ได้เดินทางไปตามเส้นทางท่องเที่ยวที่ปลอดภัย พวกเธอจ้างชาวบ้านท้องถิ่นเป็นนำทางให้พวกเธอแล้วมุ่งหน้าไปยังพื้นที่ที่ไม่รู้จักบางส่วนของป่า

ใครจะรู้ …

ฉากภูเขาที่รกร้างว่างเปล่า ไม่มีรอยเท้ามนุษย์มันมีเสน่ห์มากดังนั้นหลินหลินจึงเผลอใจลอยโดยนกที่แปลกประหลาด เธอหลงกับเพื่อนร่วมทีมของเธอในขณะที่พยายามตามนกตัวนั้น ตอนที่หลินชิงรู้สึกตัวก็มองไม่เห็นกลุ่มของเธอแล้ว

ไม่มีสัญญาณมือถือในที่รกร้างนี้ ดังนั้นเธอจึงไม่สามารถติดต่อกลุ่มของเธอได้ ไม่มีใครได้ยินเสียงของเธอ ดังนั้นหลินชิงทีตัวเลือกเพียงอย่างเดียวคือการพยายามหาทางกลับ เธอไม่คิดว่าเธอจะพบกับกลุ่มของพวกลักลอบล่าสัตว์ในภูเขาดาซิ่งอี่ ผู้ชายพวกนั้นไม่ได้สัมผัสผู้หญิงมาเป็นเวลานาน ในขณะที่หลินชิงก็น่าหลงใหลมาก เป็นผลให้พวกเขาลวนลามเธอ หลินชิงเป็นคนที่ยากจะจัดการดังนั้นเธอจึงต่อสู้กับพวกเขา ในที่สุดเธอก็เป็นเพียงผู้หญิงคนนึงและไม่สามารถหลบหนีจากชายทั้ง 5 คนได้

หลินชิง สิ้นหวัง ถูกพวกลักลอบล่าสัตว์ทำร้ายและได้แต่รอความอับอายขายหน้า แต่แล้วเต็งชิงฉานก็ปรากฏตัวขึ้นมาจากภูเขาดาซิ่งอี่ และเดินไปหาพวกเขา เต็งชิงฉานโจมตีพวกเขาอย่างรวดเร็ว หลินชิงได้รับบาดเจ็บและไม่ทันได้เห็นเหตุการณ์ แต่ทันทีที่เธอตระหนักว่าเกิดอะไรขึ้นพวกเขาก็ล้มลง

"อ่า ... " ขณะนึกถึงความทรงจำเหล่านั้นหลินชิงอดไม่ได้ที่จะเอ่ยเสียงออกมา มีรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอ

" เต็งชิงฉาน ตอนแรกอยากจะปล่อยให้ฉันหาทางกลับเอง โชคดีที่ในที่สุดเขาก็ไม่โหดร้าย และอุ้มฉันกลับไปส่งที่บ้าน " หลินชิงจำฉากนั้นได้ทุกฉาก หลินชิงนอนอยู่บนหลังของชิงฉาน เหมือนเรือเล็กลอยลงแม่น้ำไปที่ท่าเรือ แม้จะมีถนนบนเทือกเขาที่เป็นหลุมเป็นบ่อ , หลินชิงยังรู้สึกโล่งใจจริงๆ

การเดินทางระยะทางประมาณ 20 ไมล์ผ่านถนนบนภูเขาที่แห้งแล้ง เต็งชิงฉานได้นำหลินชิงไปถึงจุดหมายปลายทาง

คนปกติจะต้องรู้สึกเหนื่อยหลังจากที่เดินอยู่บนถนนบนภูเขาประมาณยี่สิบไมล์ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ต้องแบกคนอื่นไว้ข้างหลัง นอกจากนี้ดาซิ่งอี่ยังเป็นภูเขาขนาดใหญ่ แม้หน่วยคอมมานโดก็หายากที่จะทนได้ หลังจากนั้น คนลึกลับเต็งชิงฉานและหลินชิงกล่าวลากันที่ดาซิ่งอี่ หลินชิงคิดว่าเธอคงจะไม่ได้พบเต็งชิงฉานอีกแล้ว เธอไม่เคยคิดเลยว่าวันหนึ่งเธอจะพบเขาที่เมืองอันอี่

"เต็งชิงฉาน ... " หลินชิงพึมพำยังคงจมอยู่ในความทรงจำเหล่านั้น

"คุณหลิน ดูนั่น! เต็งชิงฉาน มาแล้วว! "เธอตื่นขึ้นมาด้วยเสียงโวยวายของ 'เสี่ยวมิน' จากนั้นเธอก็หันไปทางหน้าต่างและมองออกไป

ตรงข้ามกับหน้าต่างหลักมีสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าชื่อเต็มว่า "สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าหัวหิน" หลินชิงและ เสี่ยวมิน สามารถมองเห็นลานของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าจากหน้าต่างได้อย่างชัดเจน ชายหนุ่มที่ผมสั้นสวมแว่นตาและเสื้อผ้าธรรมดากำลังถือหม้อขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยแอปเปิ้ลไปที่ลานของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า

" ว้าว ! ! ! แอปเปิ้ล "

"กินแอปเปิ้ลกันเถอะ!"

" ไปเข้าแถวกินแอปเปิ้ล "

" อย่าตกใจ มายืนข้างหลังพี่ ได้โปรด เข้าแถว "

เด็กทุกคนที่เล่นในลานตั้งใจเข้าแถวเป็นสองทีมย่อย

สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าหัวหิน เด็กกำพร้าจะได้รับนมหนึ่งแก้วในทุกๆ เช้าและผลไม้บางอย่างในช่วงบ่าย เด็กกำพร้าเหล่านั้นไม่ได้กินผลไม้บ่อยนักดังนั้นผลไม้จึงน่าสนใจมาก

"ขอบคุณ คุณลุงเต็ง" เด็กฉลาดพูดอย่างมีความสุขเพราะพวกเขาได้รับแอ็ปเปิ้ลแดงที่น่ารัก ๆ จากเด็กหนุ่ม

เด็กหนุ่มผมสั้นยิ้มขณะที่เขายังให้ผลไม้แก่เด็ก ๆ ต่อไป


ในห้องวีไอพีของโรงน้ำชา เสี่ยวมินและหลินชิง กำลังมองไปที่ผู้ชายผมสั้นที่กำลังแจกผลไม้ จากทางหน้าต่าง

"คุณหลิน, เต็งชิงฉานดูมีความสุขมาก เขาดูเหมือนจะรักเด็กๆ เหล่านี้จริงๆ "- เสี่ยวมินพูดขึ้น

"ใช่ เขารักเด็กๆ เหล่านี้จริงๆไม่อย่างงั้นเขาคงไม่ไปที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเพื่อทำงานให้ฟรี" ตาของหลินชิงก็หยุดลงบนร่างของชายหนุ่มผมสั้นนั่นคือเต็งชิงฉาน เต็งชิงฉานเลี้ยงเด็กกำพร้าด้วยรอยยิ้มที่จริงใจบนใบหน้าของเขา เขาได้ทิ้งความรู้สึกประทับใจลึก ๆ ไว้กับเธอ "เสี่ยวมินฉันก็อยากทำอะไรสักอย่าง"

" ทำอะไรเหรอ? " ดวงตาของเสี่ยวมินสว่างขึ้น
หลินชิงพูดขึ้น "คุณหัวหิน ได้สร้างสถานเลี้ยงเด็กกำพร้านี้มาเป็นเวลาเกือบสามสิบปีซึ่งฉันนับถือและชื่นชมจริงๆ ... ฉันยินดีที่จะบริจาคเงินจำนวนหนึ่งแสนหยวน ช่วยกรุณาให้ฉันไปพบกับตัวแทนของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าได้ไหม?

คุณหัวหินอายุมากกว่าแปดสิบปี เธอเป็นหัวหน้าศูนย์เด็กกำพร้าหัวหิน "เป็นการกระทำที่ดี" เสี่ยวมินเห็นด้วยอย่างมีความสุข


ชายหนุ่มผมสั้น เต็งชิงฉานเพิ่งหยุดแจกแอปเปิ้ล เด็กๆ ส่วนใหญ่ได้รับผลไม้และกำลังเริ่มกิน

" ทำไมมันเล็กจัง ! " เด็กน้อยผมหยิกมองแอปเปิ้ลในมือ เด็กๆ ส่วนใหญ่ที่ได้รับผลไม้ของพวกเขาและเริ่มที่จะกิน, เขาพบว่าแอปเปิ้ลของเขามีขนาดเล็กกว่าของเด็กคนอื่นๆ สถานเลี้ยงเด็กกำพร้านี้ไม่สามารถซื้อผลไม้ที่มีขนาดเท่ากันได้ดังนั้นผลไม้ที่เด็กเหล่านั้นได้รับจึงมีขนาดไม่เท่ากัน

เด็กๆ เหล่านี้ชอบเปรียบเทียบขนาดของแอปเปิ้ล ทำให้พวกเขารู้สึกเหมือนต้องสูญเสีย

"พี่ชาย, แอปเปิ้ลของผมมันเล็กที่สุด ของพี่มันใหญ่กว่าของผมเกือบสองเท่า! "- เด็กน้อยผมหยิกพูดกับเด็กผู้ชายตัวใหญ่ยืนอยู่ข้างๆเขา

"เอ่อ วันนี้พี่รู้สึกท้องไม่ดี พี่ไม่คิดว่าพี่จะกินแอปเปิ้ลนี่หมด นายต้องการแลกมันหรือเปล่า? "- เด็กชายตัวใหญ่หัวเราะ ดวงตาสีดำของเด็กผู้ชายผมหยิกมองไปที่เขาขณะที่ถามว่า "จริงเหรอ?" แม้ว่าเขาจะถามอย่างนี้ แต่ดวงตาของเขาก็มุ่งตรงไปยังแอปเปิ้ลขนาดใหญ่ในมือของพี่ใหญ่

"พี่จะล้อเล่นกับนายได้ยังไง?" - เด็กตัวโตหัวเราะ เขาหยิบแอปเปิ้ลไว้ในมือน้องชายคนเล็กของเขาและมอบให้เขา

เต็งชิงฉานแจกเสร็จสิ้นและเห็นภาพฉากนั้น

"ทั้งสองคน ... " ตาของเต็งชิงฉานสั่นไหว ฉากเก่า ๆ เกิดขึ้นในใจของเขา

มันเป็นวันขึ้นปีใหม่เมื่อนานมาแล้ว . . . . . . .

เกล็ดหิมะหวั่นไหว , ด้านนอกเสียงประทัดดังขึ้นไม่หยุดหย่อน ในห้องว่างเปล่าเด็กกำพร้ากำลังตบมือและล้อมรอบผู้หญิงอายุหกสิบปี

" มีลูกกวาดสำหรับทุกคน เข้ามาทีละคน! " หญิงชราคนหนึ่งที่กำลังเฝ้าดูเด็กเหล่านั้นให้ลูกกวาดน้ำตาลกระต่ายสามอันใหญ่ ๆ ในช่วงเวลานั้นการมีลูกกวาดกระต่ายในวันปีใหม่เป็นเรื่องที่เหลือเชื่อจริงๆ

"ขอบคุณครับ!"

เด็กๆ เหล่านั้นก็เปี่ยมด้วยความสุขใจ กระหายที่จะได้รับลูกกวาด

พวกเขาไม่ได้กินขนมใด ๆ ตลอดทั้งปี ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สามารถหยุดความรู้สึกมีความสุขของพวกเขาได้ ทุกคนกำลังกินอย่างมีความสุขในขณะที่ร้องไห้เสียงดังด้วยความตื่นเต้น

"พี่ชาย!" เด็กคนหนึ่งสวมเสื้อเก่า ๆ ขบริมฝีปากและมองไปที่พี่ชายตัวใหญ่ของเขา

" เกิดอะไรขึ้น ชิงเจียง ? " ชายสูงขึ้นเล็กน้อยข้างๆ เขาถามขึ้น

"ผมกินลูกกวาดหมดแล้วมันอร่อยมาก  ผมกินมันเสร็จในพริบตา" เด็กน้อยคนนี้ชื่อชิงเจียงกำลังเฝ้าดูเด็กคนอื่น ๆ ซึ่งมันทำให้น้ำลอยของเขาไหล เด็กชายตัวสูงขึ้นเล็กน้อยก้มหัวลงมองลูกกวาดสองเม็ดอยู่ในมือเขา

" ชิงเจียง เอานี่ไปกิน " - เด็กที่สูงกว่าเล็กน้อย พูดขึ้น

" พี่ไม่ได้กินมันหรอ ? " - ลังเล ชิงฮา

"พี่ปวดฟัน" - เด็กชายตัวสูงหัวเราะ "พี่ปวดฟัน หลังจากที่พี่ได้กินลูกกวาดอันแรกแล้ว นี่เป็นของนาย โปรดจำไว้ว่า ... อย่าเคี้ยวมันเมื่อนายกิน นายเคี้ยวมันนายจึงกินลูกกวาดทั้ง 3 อันของนายเสร็จในขณะที่คนอื่น ๆ ยังคงกินอันแรกของพวกเขา. "

"ใช่! ผมสังเกตเห็นมัน พี่เป็นคนที่ดีกับผมที่สุด "- ชิงเจียง หัวเราะ "มีลูกกวาดสองเม็ด แบ่งกันคนละเม็ดดีกว่านะ? "

เด็กชายตัวสูงลดหัวลง เขายังเป็นเด็กและไม่สามารถต้านทานลูกกวาดที่น่าสนใจได้ เขาพยักหน้า "โอเคเราจะแบ่งปันกัน"

"ลูกกวาดหนึ่งอันต่อหนึ่งคน! " เต็งชิงฉานพูดขึ้นด้วยเสียงต่ำ "ชิงเจียงยี่สิบปีผ่านไป มันเป็นเวลายี่สิบปีแล้ว! "

มีเสียงสะท้อนของรองเท้า เต็งชิงฉานมองย้อนกลับไป เขาเห็นหญิงชราคนหนึ่งที่มีผมขาวมาพร้อมกับผู้หญิงอีกคนหนึ่งกำลังมาทางเขา

"มาดาม!"

"สวัสดีครับ!"

เด็กกำพร้าตะโกนด้วยความตื่นเต้น รอยยิ้มเหมือนดอกไม้บานสะพรั่งปรากฏบนใบหน้าของหญิงชราคนหนึ่งที่มีผมสีขาว

"มาดาม!" เต็งชิงฉานตกตะลึง หัวหน้าคนนี้ทำให้เขานึกถึงหัวหน้าที่ทำเพี่อเขาและน้องชายของเขาเมื่อ 20 ปีก่อน "มันผ่านมายี่สิบปีแล้ว หัวหน้าคนนั้นอาจจะอายุแปดสิบสามปีแล้ว " เต็งชิงฉาน ตื่นเต้นและสั่นเล็กน้อย

แต่เขากลับมาสงบได้อย่างรวดเร็ว

“หัวหน้า คนนี้คือชิงฉาน เขามาเริ่มทำงานให้เราฟรี เขาทำงานอยู่ที่นี่เป็นวันที่หกแล้ว เขาคล่องแคล่วทำงานหนักและฉลาดมาก "- ผู้หญิงคนนั้นหัวเราะ

"เต็งชิงฉาน?" หญิงสาวผิวขาววัยแปดสิบปียิ้มให้และมองเต็งชิงฉาน

"ชิงฉาน, ช่วยดูแลหัวหน้าได้ไหม? ฉันจะไปเตรียมอาหารค่ำสำหรับเด็ก ๆ ในห้องครัว "- ผู้หญิงที่มีรอยยิ้มพูดขึ้น

"ไม่มีปัญหา" - เต็งชิงฉาน หัวเราะ

"หัวหน้า ฉันไปก่อน" - หญิงกล่าวขึ้น เต็งชิงฉานจับมือหัวหน้าเพื่อที่จะช่วยเธอ หญิงชรายิ้มมองไปที่เต็งชิงฉาน ด้วยรอยยิ้มอ่อนโยนบนใบหน้าของเธอ "ชิงฉาน คุณอายุยี่สิบสามปีใช่มั้ย? ฉันได้ตรวจสอบประวัติการทำงานของคุณแล้ว "

"ใช่ ผมเพิ่งจบการศึกษาจากวิทยาลัย" - เต็งชิงฉานพยักหน้า

"ครั้งแรกที่ฉันเห็นคุณ ฉันรู้ว่าคุณไม่เคยทำงานหนักมาก่อน คุณต้องอดทนในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาที่นี่? "- ผู้หญิงแก่ผิวขาวยิ้ม

"ไม่ ผมทำงานเฉพาะเมื่อผมความรู้สึกมีความสุขและความกระตือรือร้น" - เต็งชิงฉานกล่าวขึ้นด้วยรอยยิ้มพร้อมกับจับมือหัวหน้า

หัวหน้าพูดขึ้นด้วยอารมณ์ซับซ้อน "เป็นคนซื่อสัตย์ดี ชิงฉาน จริงๆฉันรู้สึกคุ้นเคยกับคุณทุกครั้งที่ฉันเห็นคุณและมันช่วยไม่ได้ที่จะให้ฉันคิดถึงเรื่องราวในอดีต มีเด็กอยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าซึ่งมีอายุประมาณแปดปี สภาพสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าของเรายากจนมาก มีเพียงฉันและลูกสาวคนโตของฉันที่ดูแลเด็ก ๆ เหล่านี้เท่านั้น พวกเขาเป็นเพื่อนสนิทกัน คนหนึ่งชื่อว่าฉาน อีกคนหนึ่งขื่อว่าชิงเจียง ฉันเเป็นคนตั้งชื่อพวกเขาเอง ชื่อของคุณเหมือนกับเค้าชิงฉาน ... นี่คือโชคชะตา "

เต็งชิงฉานสั่นเทาและพยักหน้า: "ใช่ มันเป็นเรื่องของโชคชะตา"

"แต่ชิงฉานถูกเลี้ยงดูและออกจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้านี้ประมาณยี่สิบสองปีก่อน ตอนนี้เขาคงจะอายุยี่สิบเก้าปีซึ่งอายุมากกว่าคุณมาก บางทีเขาอาจจะแต่งงานและมีลูกแล้ว "- หัวหน้ากล่าว  "เขาฉลาดมาก ฉันไม่รู้ว่าตอนนี้เขาเป็นยังไงบ้าง ฉันอ่อนแอลงทุกวัน ถ้าเป็นไปได้ฉันอยากพบเค้าอีกครั้ง "

เต็งชิงฉานรู้สึกประทับใจมาก: "ผมเชื่อว่าความปรารถนาของหัวหน้าจะเป็นจริงขึ้นมา"

ชิงฉาน และ ชิงเจียง เป็นพี่น้องที่มาอยู่กับสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าตั้งแต่เกิด ในเวลานั้นหัวหน้าเพิ่งเปิดสถานเลี้ยงเด็กกำพร้านี้ ชิงฉาน และ ชิงเจียงกล่าวได้ว่าพวกเขาเป็นเด็กกำพร้ากลุ่มแรกที่มาอยู่ที่นี่ นอกจากนี้หัวหน้ายังช่วยเหลือเด็กเหล่านั้นขณะที่ยังยากจน เป็นผลให้ความรักของเธอต่อพวกเขาลึกซึ้งมาก


หลินชิงและเสี่ยวมินสังเกตเห็นเต็งชิงฉานทำงานที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ตอนแรกเต็งชิงฉานมากับหัวหน้าแล้วเดินไปเล่นกับเด็กๆ ตั้งแต่ต้นจนจบเขาไม่รู้สึกรำคาญเลย เด็กทุกคนที่นั่นก็รักเขา จากนั้นเต็งชิงฉานก็พาเด็กๆ ไปที่ห้องอาหาร

"คุณหลิน เขากำลังมาตรงนี้! "- เสี่ยวมินกล่าว

เมื่อเห็นเต็งชิงฉานกำลังจะออกจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า หลินชิงก็ตะโกนออกไป "เต็งชิงฉาน!"

เต็งชิงฉาน เงยหน้าขึ้นมอง

" มานั่งตรงนี้สักพัก " หลินชิง ยิ้ม เธอเดาว่าเต็งชิงฉานกินข้าวแล้ว เพราะ . . . . . . . ถึงแม้ว่าเธอจะเชิญเต็งชิงฉานหลายครั้ง เต็งชิงฉานมาคุยกับเธอที่นี่เพียงสองครั้ง

เต็งชิงฉาน ยิ้มและส่ายหัว "ผมมีบางสิ่งที่ต้องทำในวันนี้ ไว้เจอกันครั้งหน้า"

"ตกลงแล้ว ... " หลินชิง รู้สึกค่อนข้างผิดหวัง แต่ก็ยังคงยิ้มอยู่

เสี่ยวมินและหลินชิงมองเต็งชิงชานออกไป

"คุณหลิน, เต็งชิงฉานไม่ไว้หน้าเราเลย เขาไม่ตอบรับคำเชิญของหลินชิงสุดสวยด้วย! "- เสี่ยวมินหัวเราะ

"เอาล่ะทำไมเราไม่กลับไปทานข้าวเย็นที่บ้านล่ะ?" หลินชิงยืนขึ้นและเดินออกจากโรงน้ำชาไปพร้อมกับเสี่ยวมิน


ในลานบ้านในเขตชานเมืองของเมืองอันอี่

ที่ลานว่างเต็งชิงฉาน ไม่ได้ใส่เสื้อ ไม่ได้ใส่แว่นตา เต็งชิงฉานยังคงดูอ่อนโยน เมื่อเขาถอดแว่นตาของเขามันก็ยังดูไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
เต็งชิงฉานไม่ได้ใส่เสื้อท่ายืนอยู่ในท่า สิ่งอี้ฉวน

เขาหายใจเข้า และจู่ ๆ หน้าอกของเขาก็ยืดขึ้นมา, เขาเลียนแบบกรงเล็บพยัคฆ์ เท้าของเขากำลังเคลื่อนที่เหมือนลอยอยู่บนอากาศเหนือพึ้นโคลน เต็งชิงฉานในตอนนี้ท่าทางแข็งแกร่งสมชายมีดูเสน่ห์ดึงดูดใจเขาเหมือนกับภูผา เคลื่อนที่ไปข้างหน้าโดยไม่ต้องคำนึงถึงสิ่งใด , เลี้ยวขวาหรือการต่อสู้, ดูเหมือนกับว่าไม่มีใครสามารถย้ายภูผาอันมั่นคงนี้ได้

" ฟิ้ว ฟิ้ว ! "

นั่นคือเสียงของลมในอากาศ

เมื่ออยู่ในท่าของเขา เขายังคงยืนนิ่งเหมือนขาตั้งหม้อ

ขาซ้ายของเขาดูคล้ายครูดกับดิน จู่ๆ เขาก็ก้าวเท้าขวาของเขา ร่างกายทั้งหมดของเขางอจนถึงขีดจำกัดมันเหมือนคันธนูที่พร้อมจะยิงออกไป

“พุบ!”

มีการระเบิดในอากาศ เกิดกระแสลมแรงขึ้นในลาน

ท่าของสิ่งอี้ฉวน เปลี่ยนไปโดยปราศจากความลังเลเปลี่ยนไปเป็น 'หมัดน้ำแข็ง' ของ ศิลปะการต่อสู้ห้าธาตุ ซึ่งดูเหมือนน้ำพริ้วไหวและเมฆล่องลอย

พลังของเขายิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งสร้างกระแสลมเพิ่มขึ้น

คนปกติที่เรียนรู้ศิลปะการต่อสู้คงจะตกใจหากเห็นสิ่งที่เขาทำอยู่ เขายังคงเปลี่ยนจากสิ่งอี้ฉวนไปเป็นศิลปะการต่อสู้ห้าธาตุ เห็นได้ชัดว่าเขาบรรลุขั้นสูงสุดของศิลปะการต่อสู้ห้าธาตุ

[TL Note - สิ่งอี้ฉวนเป็นประเภทของศิลปะการต่อสู้ของจีน http://en.wikipedia.org/wiki/Xing_Yi_Quan]

" โฮ ~ "

เขาหันร่างกายไปรอบ ๆ จากนั้นเต็งชิงฉานกลับไปยังท่าแรกของเขาที่ชื่อว่า สิ่งอี้ฉวน และค่อยๆ หายใจออก จิตใจของเขาสงบเหมือนน้ำในทะเลสาบที่ไม่มีคลื่นเลย

เขาสามารถรู้สึกถึงทุกอณูของร่างกาย, จากอวัยวะภายในของเขาไปจนถึงมัดกล้ามทุกมัด แม้แต่ทุกๆ รูขุมขนบนผิวหนังของเขา อย่างไรก็ตามยังไม่สามารถเทียบกับตำนานพื้นเมืองได้

[Note - อย่างไรก็ตามยังไม่สามารถเทียบกับตำนานพื้นเมืองได้ ท่อนนี้ดำน้ำนะครับ]

" ฉันจะตายโดยไม่เสียใจ หากความปรารถนาของฉันจะเป็นจริงขึ้นมา "

" นี้เป็นระดับสูงสุด แต่มันก็ยากมากสำหรับฉันที่จะผ่านมันไป ถ้าในที่สุดฉันสามารถบรรลุมัน ฉันอาจจะตายโดยไม่เสียใจ " เต็งชิงฉาน อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ

สิ่งอี้ฉวนเป็นหนึ่งในสามรูปแบบภายในที่ยิ่งใหญ่ มีหลายคนในประวัติศาสตร์ที่สามารถบรรลุระดับสูงสุดได้ อย่างไรก็ตามในปัจจุบันนี้หายากมากที่จะหาคนที่เชียวชาญมัน

"พื้นนี่เสียหายได้ง่าย ฉันรู้สึกไม่สบายใจที่จะใช้มันในการฝึกฝน" เต็งชิงฉาน สังเกตเห็นพื้นโคลนที่แตก เขายังไม่ได้ฝึกฝนแบบจริงๆ จังๆ ถ้าเขาต่อสู้จริงๆ พื้นคงจะถูกทำลาย

เต็งชิงฉานนั่งขัดสมาธิ ลมหายใจของเขาเบาจนแทบจะไม่ได้ยิน จิตใจของเขาสงบนิ่งเหมือนน้ำ

เขารู้สึกผ่อนคลายมาก

" วู้ วู้  , . . . . . . . " เส้นเลือดของเขาเลือดกำลังไหลเวียนอย่างงียบๆ เหมือนน้ำไหลออกไปอย่างอ่อนโยน หัวใจของเขาเต้นช้ามีโอกาสมากๆ ที่จะได้ยินเสียงการเต้นของมัน

เวลาผ่านไปอย่างช้าๆ แต่เวลากลางคืนก็มาถึงอย่างรวดเร็ว

เต็งชิงฉานยังคงนั่งขัดสมาธิอยู่ที่เดิม มีชายผอมสูงสวมเสื้อผ้าสีดำ ที่ลดเสียงพูดกับไมโครโฟนติดปกเสื้อของเขา "กลิ่นอินทรี ผมเพิ่งจะถึงสถานที่ที่เขาอยู่ . " ชายผอม พยายามจะใจเย็นลง

เขากำลังเข้าใกล้เป้าหมายอย่างเงียบ ๆ ค่อยๆก้าวอย่างว่องไว โดยไม่มีเสียง

เขาจับกำแพงด้วยสิบนิ้วของเขา โดยใช้มือข้างหนึ่งเป็นศูนย์กลาง กระโดดพุ่งขึ้นไปในบริเวณนั้นราวกับเสือดำ

ขาและมือของเขาสัมผัสพื้นดินในเวลาเดียวกัน มันทำให้เสียงเบามาก

ชายที่แต่งชุดประหลาดสีดำมองไปรอบ ๆ เห็นชายคนหนึ่งนั่งขัดสมาธิอยู่ในลานซึ่งทำให้เขาประหลาดใจจริงๆ

"มาแล้วเหรอ?" ชายที่นั่งขัดสมาธิก็เปิดตาขึ้น

"หนี!" ชายที่แต่งชุดประหลาดสีดำเปลี่ยนสีหน้าของเขาและตัดสินใจที่จะหนีออกไปโดยไม่ลังเลเลย

ชายที่แต่งชุดประหลาดสีดำฉลาดมาก กับการ 'ลอบสังหาร' เขาอาจจะยังมีโอกาสชนะ แต่ตอนนี้เขาได้ถูกตรวจพบ ตามความคิดของตอนนี้เขาไม่มีหวัง

"หวือ" ชายที่แต่งชุดประหลาดสีดำก้าวถอยหลังหันไปรอบ ๆ ต้องการที่จะหนี …

"บูม!"

ชายที่แต่งชุดประหลาดสีดำรู้สึกว่าเงาที่นั่งขัดสมาธิจู่ๆ ก็ลุกขึ้นยืน พื้นโคลนทั้งหมดแตกเป็นเสี่ยง ๆ เงานั้นดูราวกับพยัคฆ์ที่เกรี้ยวกราดกระโดดขึ้นไป 7-8 เมตร ชายที่แต่งชุดประหลาดสีดำรู้สึกกลัวว่าเขาจะไม่มีเวลาแม้แต่วินาทีเดียวที่จะเอาอาวุธออก

"อ๊าก!" ชายที่แต่งชุดประหลาดสีดำรู้สึกเจ็บปวดอย่างรุนแรงที่ลำคอของเขา

"ว้าา ... ฮะ ... " เขาพยายามจะพูด แต่ไม่มีคำพูดออกมาแม้แต่คำเดียว จากนั้นเขาก็ล้มพับและตาย

เต็งชิงฉานดึงแขนเสื้อของมือสังหารขึ้นและเอาเลือดไปป้ายที่แขน รอยสักสีดำปรากฏบนแขนซึ่งดูซับซ้อนมาก แม้แสงที่ส่องลงมาจากพระจันทร์จะน้อยนิด เต็งชิงฉานสามารถมองเห็นรอยสักได้อย่างชัดด้วยดวงตาอันงดงามของเขา เต็งชิงฉานมีสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย "มันเป็นเพราะฉันเอง ที่ทำให้พวกเขาต้องการจะจ่ายด้วยราคาที่สูงแบบนี้ พวกเขายังได้เชิญกลุ่มเดนนรกมาเพื่อติดตามแกะรอยของฉันด้วย "

"ฉันถูกตรวจพบ ฉันไม่ควรอยู่ในเมืองอันอี่อีกต่อไป"

เต็งชิงฉานเดินกลับไปที่ห้องของเขาเปลี่ยนชุด เก็บข้าวของของเขาและจากนั้นก็ออกจากเมืองอันอี่อย่างเงียบๆ ในตอนกลางคืน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น