วันพุธที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

CH5 - ศัตรูที่แข็งแกร่ง

CH5 - ศัตรูที่แข็งแกร่ง

ในร้าน ไวท์คราวน์คาเฟ่ ที่ตั้งอยู่ถัดมาจากโรงน้ำชาวิลโลว์ เต็งชิงฉานนั่งตรงข้ามกับหลินชิงที่ร้านกาแฟแห่งนี้ เวลาค่อยๆผ่านไป จนดวงอาทิตย์ลาลับขอบฟ้าตกหลังภูเขา
“เวลาผ่านไปเร็วจัง”  หลินชิงเหลือบมองหน้าต่าง เวลาในแต่ละวันช่างผ่านไปเร็วเกินไป เธอมองไปที่เต็งชิงฉานด้วยรอยยิ้มหวาน เวลาที่เธอมองเขา หัวใจที่เคยว่างเปล่าและเงียบเหงา กลับรู้สึกเหมือนถูกเติมเต็มด้วยความอบอุ่นซ้ำแล้วซ้ำเล่า
เธอคิดถึงช่วงเวลาที่เธออยู่บนแผ่นหลังของเขา ช่วงเวลาที่เขาแบกเธอไว้ที่หลัง เดินไปบนถนนบนภูเขายี่สิบไมล์ เธอไม่เคยลืมความรู้สึกบนแผ่นหลังของเขา
ในชีวิตนี้ เธอไม่เคยรู้สึกปลอดภัยและสบายใจเท่านี้มาก่อน
‘ถ้าเพียงฉันสามารถมองเขาต่อไปแบบนี้ จนกว่าโลกจะสิ้นสุดละก็’ หลินชิงบอกกับตัวเอง ภาพลักษณ์ของเต็งชิงฉาน ผุดขึ้นมาในใจที่สั่นไหวของเธอ ‘ไม่ ฉันไม่ควรจะไปพัวพันกับเขาไปมากกว่านี้ ถ้าเป็นที่เมืองอันอี้คงไม่เป็นไร แต่นี่เราอยู่ที่หยางโจว ถ้าเขารู้ว่าเต็งชิงฉานอยู่ที่นี่ เเต็งชิงฉานได้ซวยแน่ๆ !!’
ฉับพลัน เมื่อหลินชิงคิดว่าจะไม่ได้เจอเต็งชิงฉานอีก เธอก็รู้สึกข่มขืนขึ้นมาในหัวใจของเธอ
การพบเจอกันที่ภูเขานั้น คงเป็นโชคชะตา
การเจอกันที่เมืองอันอี้ ก็คงเป็นโชคชะตาอีกเช่นกัน
ตอนนี้ยังจะมาเจอกันที่หยางโจวอีก เห็นทีพระเจ้าคงอยากจะเติมเต็มความปรารถนาของเธอ
***
‘พระพุทธเจ้าเคยตรัสไว้ว่า การพบปะจนครบ 500 ครั้ง ในชีวิตที่ผ่านมา จะมีโอกาสเพียงครั้งเดียวที่จะได้เจอกันในชาติต่อไป เพียงครั้งเดียว แต่นี่ฉันได้เจอเต็งชิงฉานตั้ง 3 ครั้งโดยบังเอิญ มันเป็นไปตามประสงค์พระเจ้าหรือยังไง’ ในใจของเธอรู้สึกสังเวชอย่างแท้จริง ‘แต่ ฉันทำร้ายเต็งชิงฉานได้’
เต็งชิงฉานส่ายหัวเล็กน้อย วันนี้เขารอมาทั้งวันเพื่อที่จะเจอน้องชาย ‘ชิงเจียง’ อีกครั้ง
“หืม?” เต็งชิงฉาน สนใจเพลงในร้านกาแฟที่กำลังเปิดอยู่ในตอนนี้ มันคือเพลง One Game , One Dream ร้องโดย Chyi Chin
“หลินชิง รู้สึกยังไงกับเพลงนี้?” เต็งชิงฉานยิ้มให้เธอเล็กน้อยก่อนและถามเธอ
หลินชิงสะดุ้งเล็กน้อย เธอยิ้ม “ เพลงนี้ร้องโดย Chvi Chin ก็จริง แต่เพลงนี้จริงๆแล้วเป็นของ Dave wong ”
“จริงเหรอ? ฉันเคยฟังเพลงของ Chvi Chin แค่คนเดียว” เต็งชิงฉานตอบ
หลินชิงรู้สึกประหลาดใจ จะเป็นไปได้ยังไง คนที่ชอบฟังเพลง จะฟังแค่เพลงของนักร้องคนนี้คนเดียว โดยที่ไม่ฟังเพลงของนักร้องคนอื่นเลย “ ทำไมคุณถึงฟังแค่เพลงของ Chvi Chin? ”
“เพราะเขาเคยร้องเพลงชื่อ ‘วูฟ’ ” เต็งชิงฉานตอบอย่างไม่ใส่ใจนัก
“วูฟ?” เธอทวนชื่อเพลงอย่างสงสัย
“ฉันต้องไปแล้ว เจอกันครั้งหน้า ถ้ามีโอกาส” เต็งชิงฉานยิ้ม และลุกขึ้น หลินชิงไม่ได้พูดอะไร เธอทำท่าเหมือนจะพูดอะไรซักอย่าง แต่ก็หยุดความตั้งใจไป และนั่งลงอย่างไม่มีทางเลือก ฟังเพลงอย่างเจ็บปวด “หนึ่งเกมหนึ่งฝัน? ฉันควรจะคิดว่าที่ผ่านมาเป็นแค่ความฝัน” เธอยกแก้วไวน์ขึ้นแล้วกระดกดื่มในรวดเดียว
การที่เต็งชิงฉานได้มาเจอหลินชิงที่หยางโจวเป็นเพียงเรื่องราวเล็กๆน้อยๆ เขาถอนหายใจนิดหน่อย ที่ภูเขาดาชิง ที่เมืองอันอี้ หรือ ที่เมืองหยางโจว การที่เขาได้พบหลินชิง ล้วนเป็นเรื่องบังเอิญสำหรับเขา
“หวิว หวิว”
สายลมพัดโหมรุนแรงในยามค่ำคืน กิ่งก้านต้นไม้ไหวเอน เงาของคนวูบวาบไปมา เสียงของอากาศและเสียงของการฟาดฟันอาวุธ ลอยมาตามลมเป็นครั้งคราว เนื่องจากแถวนี้อยู่ห่างจากบ้านคน จึงไม่มีใครได้ยิน
ทันทีที่เต็งชิงฉานหยุดการเคลื่อนไหว สายตาของเขาก็มีแต่ความสงสัย
“ระดับปรมาจารย์ ฉันจะเป็นระดับปรมาจารย์ได้ยังไง?” จิตใจของเขาเต็มไปด้วยความสงสัย “ฉันฝึกมาหลายปีแล้ว และตอนนี้ความแข็งแกร่งจากภายในสามารถระเบิดออกมาจากทุกส่วนของร่างกาย สิ่งที่เหลืออยู่ตอนนี้คงจะเป็นส่วนที่ยากที่สุด ฉันจะทำยังไงกับขั้นสุดท้ายนี้ดี?”
“แม้แต่อาจารย์ของเราก็ยังติดอยู่ในขั้นสุดท้ายนี้หลายสิบปี ท้ายที่สุดก็ยังไม่เจอวิธีที่จะไปถึงระดับปรมาจารย์ได้” เต็งชิงฉานรู้สึกกลุ้มและถอนหายใจอย่างต่อเนื่อง ความปรารถนาที่อยากจะบรรลุระดับปรมาจารย์ เพิ่มพูนมากขึ้นเรื่อยๆ ในหัวใจเขา
ท้ายที่สุดเขาก็ต้องหยุดคิดถึงเรื่องนี้ไปก่อน
“ฉันอยู่ที่เมืองหยางโจวมาได้ 8 วันแล้ว ฉันยังไม่ได้เจอชิงเจียงเลยซักครั้ง” เต็งชิงฉานรู้สึกกังวลเล็กน้อย
“ฉันถามเอเลน่าแล้ว และเธอก็ดูจะมั่นใจมาก ว่าชิงเจียงทำงานอยู่ในหยางโจว แล้วยังให้ที่อยู่เขากับฉัน” ไม่มีทางออกอื่น เต็งชิงฉานคิดอย่างนั้นเขาถอนหายใจ หลับตาลง
ทิวทัศน์รอบตัวเขาเงียบมาก
……
ยามรุ่งสาง สวรรค์และโลก ฉับพลันสว่างขึ้นเล็กน้อย ความเย็นเพียงเล็กน้อยทำให้บรรยากาศดูสดชื่นขึ้น
เต็งชิงฉานหลับตาลง และนั่งขัดสมาธิอยู่ในลานบ้าน
ทุกสิ่งทุกอย่างระหว่างสวรรค์และโลกเข้าสู่ความเงียบงัน
“ปัง!” ฉับพลันประตูไม้ขนาดใหญ่ของลาน ระเบิดขึ้น ราวกับโดนปืนใหญ่ยิงใส่ เศษประตูที่กระจัดกระจาย พุ่งหาเต็งชิงฉานราวกับลูกธนู
ในขณะที่เขาอยู่ในท่านั่งขัดสมาธินั้น เต็งชิงฉานก็ยกมือของเขาขึ้นเป็นท่าที่คล้ายกับกรงเล็บของพยัคฆ์ ก่อนที่เขาจะโจมตีไปบนพื้นดิน ส่งผลให้เกิดหลุมบนพื้นคอนกรีต เขาพุ่งตัวไปข้างหน้าพร้อมเตะเศษไม้เหล่านั้น จากนั้นเขาก็กระโดดขึ้นไปบนดาดฟ้าด้วยความเงียบ ราวกับลิงปีนป่าย
“ปัง! ปัง! ปัง!”
เสียงกระสุนดังขึ้นต่อเนื่องติดกันสามนัด สองในสามนัดถากเต็งชิงฉานไป
“ปืนเก็บเสียง? ในที่สุด ซันซีและโดวก้าเทอรอฟก็มา” เต็งชิงฉานเฝ้าสังเกตการ์ณอยู่บนหลังคา ดวงตาของเขาเย็นชาราวกับหมาป่าผู้โดดเดี่ยว เขาจับกระเป๋ากางเกง ก่อนจะหยิบมีดออกมา แม้ว่ามันจะเป็นแค่มีดปอกผลไม้ก็ตาม
“ฟิ้ว!” มีเสียงมีดบาดอากาศเกิดขึ้น ร่างกำยำที่อยู่บริเวณหน้าประตูลานคือเป้าหมาย เขาสังเกตเห็นว่าเต็งชิงฉานอยู่บนหลังคา และไม่ลังเลที่จะไล่ตามขึ้นไป เต็งชิงฉานสังเกตว่าเขาคือผู้ชายผิวขาวศรีษะล้าน!!
แทบจะเวลาเดียวกัน ก็มีชายผิวเหลือง ตัวเล็กผอม อีกคนปรากฎตัวขึ้น ด้วยปืนสีเงินในมือ เขามีสายตาเย็นเยียบราวกับน้ำแข็ง ที่ไม่มีวันละลาย เขาเล็งปืนไปที่เต็งชิงฉาน
“ปัง! ปัง!”
กระสุนถูกยิงไปสองนัด
ปืนในมือชายผิวเหลืองและทักษะการต่อสู้ของชายศรีษะล้าน เป็นการประสานงานได้ดีอย่างไม่มีขาดตกบกพร่อง
ถ้าเต็งชิงฉานพยายามจะใช้มีดกับชายศรีษะล้าน เขาก็ต้องเผชิญหน้ากับกระสุนของมือสังหารระดับ S ‘ชาร์ปชูตเตอร์’ ซันซี และถ้าหากเขาพยายามที่จะจัดการซันซี เขาก็ต้องหนักใจกับ ‘บอดี้ครัชเชอร์’ โดวก้าเทอรอฟ
เวลานี้เหมือนเต็งชิงฉานมีทางเลือกไม่มากนัก
“ฮึ่ม!”
ในขณะที่ซันซียิงออกมา โดวก้าเทอรอฟก็กระโดดขึ้น เต็งชิงฉานไม่ลังเล เขากระโดดขึ้นอย่างแรงจนกระเบื้องบนดาดฟ้าแตกเป็นชิ้นๆ และพุ่งลงมายังพื้น
ซึ่งทำให้การโจมตีของศัตรูทั้งสองพลาด
จังหวะที่เขากำลังลงมา เขาได้ใช้มือขวาปามีดใส่ซันซี ความไวราวกับสายฟ้าฟาดเจาะผ่านได้แม้กระทั่งกระเบื้องของดาดฟ้า
“ชิ!” เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้น เต็งชิงฉานยิ้มออกมาเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่ามีดบินนั้นมีเป้าหมายอยู่แล้ว
เต็งชิงฉานกระโดดคล่องแคล่วราวกับแมวพุ่งเข้าไปในบ้าน ใต้เตียง มีมีดปอกผลไม้อยู่ 10 เล่ม 5 เล่มแรกอยู่ที่มือขวา และอีก 5 เล่มอยู่ที่มือซ้าย มีดปอกผลไม้เป็นอาวุธที่หาซื้อได้ง่ายที่สุดในเมือง เต็งชิงฉานเอามีดใส่กระเป๋าเก็บมีดที่กางเกงของเขาทั้งสองข้าง
“โครม!”
ทันใดนั้นกระเบื้องและก้อนอิฐก็ร่วงลงมาจากด้านบน และร่างมีที่น่าสะพรึงกลัวตกลงมาราวกับมอนสเตอร์ตกลงมาจากฟากฟ้า
‘โดวก้าเทอรอฟ! ถ้าฉันสู้กับเขา โอกาสชนะคงไม่สูง นอกจากนี้ยังจะมีกระสุนของซันซีมาขัดขวางอีก โอกาสรอดของฉันแทบเป็นศูนย์’ การแสดงออกทางสีหน้าของเต็งชิงฉานเปลี่ยนไป เขาเตะออกไป ท่าทางดูงุ่มง่ามราวกับช้างเทอะทะ อย่างไรก็ตาม จากการเตะนั้นเขากลับถอยออกมาห่างจากโดวก้าเทอรอฟหลายเมตรมาก ตามด้วยการใช้มือและขาด้วยท่าทางของพยัคฆ์ที่มีพละกำลัง พุ่งกลับไปยังลานอีกครั้ง
ในฐานะผู้เชี่ยวชาญศิลปะการต่อสู้ สิงอี้ ความเร็วของเต็งชิงฉานเพิ่มขึ้นอย่างเฉียบพลัน
ขณะที่เขาพุ่งตรงไปยังลาน ก็รู้สึกได้ถึงความเย็นวาบกระทบที่ใบหน้า กระสุนของซันซี พุ่งแหวกอากาศเข้ามา!
“ปัง!”
ชาร์ปชูตเตอร์ ซันซี มีความสามารถในการคำนวณความรวดเร็วของเต็งชิงฉานได้อย่างแม่นยำ เพราะกระสุนของเขายิงเข้าที่เต็งชิงฉาน เต็งชิงฉานก็ไม่ยอมน้อยหน้า เขาปามีดออกไป

“แกร๊ง!” เสียงมีดของเต็งชิงฉานพุ่งปะทะกับกระสุนของซันซี
ในขณะเดียวกัน กระสุนอีกนัดก็ถูกยิงออกมา ในแง่พลัง มีดบินนั้นเหนือกว่ากระสุนปืน และ ปืนเก็บเสียงนั้น ก็มีจำนวนกระสุนไม่มากนัก
“ฮึ่ม!” เต็งชิงฉานหมุนตัวกลางอากาศสองครั้งคล้ายกับมังกร กระสุนหนึ่งนัดยิงตรงเข้ามาที่แขนขวา จังหวะนั้น กล้ามเนื้อที่แขนของเขาก็ขยายตัวขึ้น เส้นเอ็นหมุนบิดไปมา ด้วยการเคลื่อนไหวนั้น มันคือการสร้างความแข็งแกร่ง
“ฟุ่บ!”
ขณะที่กระสุนปะทะกับกล้ามเนื้อความแรงของมันก็ถูกทำให้ลดลงและดีดออกมา ทำให้กระสุนของซันซี ไม่สามารถสร้างบาดแผลฉกรรจ์ได้
ชาร์ปชูตเตอร์ ซันซี  ยิ้มมุมปาก โดวก้าเทอรอฟเผยรอยยิ้มออกมาขณะที่พวกเขากำลังออกมาจากห้อง
หนึ่งคนยืนอยู่ที่ด้านหน้าของทางเข้าลานและอีกคนนึงยืนอยู่ข้างประตูห้องพัก
ทั้งสองคนก็จ้องมองไปที่เต็งชิงฉานด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าของพวกเขา
เต็งชิงฉานยืนอยู่ใต้ต้นพีชด้วยใบหน้าสงบนิ่งราวกับน้ำ
“หมาป่าเดียวดายที่ใช้มีดบิน เป็นมือสังหารมืออาชีพที่แข็งแกร่ง ที่ทำลายป้อมปราการสีแดงด้วยตัวคนเดียว” กระสุนสองนัดของฉันทำอะไรเขาไม่ได้
“การควบคุมกล้ามเนื้อของคุณ อยู่ในระดับที่ไม่มีใครเทียบได้จริงๆ ฉันชื่นชมคุณ!” ชาร์ปชูตเตอร์ ซันซีเป็นเด็กหนุ่มอายุน้อยหน้าตาดีคนหนึ่ง หากแต่สายตาของเขานั้นเย็นชาเหมือนงูพิษที่ไม่แยแสต่อสิ่งใด
เต็งชิงฉานแทบจะรู้ทันทีว่าซันซีคือผู้ที่ฝึกฝนหนึ่งในสามศิลปะการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ ‘ฝ่ามือแปดทิศ’ อายุที่แท้จริงของซันซีคงประมาณรุ่นราวคราวเดียวกับตัวเขา และเขาก็ฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ บวกกับปืนของเขา เขากลายเป็นผู้ส่งสารแห่งความตายที่ใครหลายๆ คนต่างหวาดกลัว
“วูฟ คุณแข็งแกร่งจริงๆ ฉัน,โดวก้าเทอรอฟชื่นชมคุณ คุณควรจะฆ่าตัวตายเอง” ชายที่มีขนาดใหญ่พอๆ กับหมีขั้วโลกพูดอย่างมีความนัย
เต็งชิงฉานกวาดตามองดูกระสุนเปื้อนเลือดที่ตกลงบนพื้น
เต็งชิงฉานเก็บความกังวลไว้ในใจ แม้ว่าตัวเขาจะอยู่ไกลจากคำว่าปรมาจารย์เพียงก้าวเดียว แม้เขาสามารถควบคุมกล้ามเนื้อได้ในระดับสูงมากแล้ว แต่เขาก็ไม่สามารถป้องกันกระสุนพวกนั้นได้ง่ายๆ กระสุนนั้นยังคงส่งผลต่อแขนขวา ทำให้สมรรถภาพและพละกำลังลดลง
“ได้เห็นความต้านทานกระสุนของคุณ ฉันคิดว่าคุณคงเหลืออีกขั้นเดียวก็จะเข้าสู่ระดับปรมาจารย์” ซันซีถอนหายใจ “น่าเสียดาย! ที่ผู้เชี่ยวชาญศิลปะการต่อสู้อีกคนหนึ่งต้องมาจบชีวิตลง” เพราะซันซีและโดวก้า
เทอรอฟประสานงานกันได้ดี อีกทั้งเป้าหมายของพวกเขาบาดเจ็บ พวกเขาจึงมีความได้เปรียบเต็งชิงฉาน และมั่นใจว่าชัยชนะต้องเป็นของพวกเขา
“วูฟคือผู้ฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ ฉันเคารพคุณนะ คุณควรจะฆ่าตัวตายและมันเป็นตายที่เหมาะสม” ซันซีกล่าว
ในการต่อสู้ที่รุนแรงนั้น การที่ศพจะมีสภาพไม่น่าดูเป็นเรื่องปกติ และการที่ซันซีและโดวก้า
เทอรอฟให้โอกาสเต็งชิงฉานได้มีทางเลือกสุดท้ายให้กับความตายของตัวเองนั้น นับเป็นความใจดีอย่างหนึ่ง
“ฆ่าตัวตาย?” เต็งชิงฉานมองที่พวกเขาด้วยสายตาเฉียบคมราวกับมีด “ตลกเหรอ! ใครจะตายก็ไม่มีใครรู้? ชีวิตของฉันอยู่ตรงนี้! อยากได้ก็มาเอาไป! ถ้าคิดว่าทำได้นะ!”

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น